top of page

วิธีที่คุณสามารถปลดล็อกการเติบโตของรายได้ด้วยการวิเคราะห์สินค้าและ SKU

รูปภาพนักเขียน: GraasGraas

อัปเดตเมื่อ 27 ธ.ค. 2567


Craft the right eCommerce strategy for your products with Graas' Product / SKU Analytics

สินค้าที่ขับเคลื่อนความสำเร็จของคุณในวันนี้อาจไม่มีความดึงดูดเหมือนเดิมในวันพรุ่งนี้ เทรนด์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความต้องการสินค้าก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน ทำให้ธุรกิจต้องรีบตามให้ทัน


หากคุณกำลังขายสินค้าหลายหมวดหมู่ การระบุสินค้าขายดีที่แท้จริงอาจเหมือนกับการยิงในความมืด แน่นอนว่าอาจมีการเดาที่ดีเกี่ยวกับสิ่งที่ทำงาน แต่หากขาดข้อมูลที่ชัดเจน การรู้แน่ชัดเป็นเรื่องยาก


เมื่อไลน์สินค้าและจำนวน SKU ของคุณเพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนนี้ก็ยิ่งลึกขึ้น


แล้วคุณจะทำอย่างไรในการแยกแยะว่าสินค้าใดกำลังทำผลงานได้ดีจริง ๆ และสินค้าตัวไหนที่ล้าหลัง? นี่คือที่ที่การวิเคราะห์สินค้าของ Graas เข้ามามีบทบาท ช่วยให้คุณปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับสินค้าของคุณ ซึ่งช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้



มาดำน้ำลึกและสำรวจว่า การวิเคราะห์สินค้าและ SKU ของ Graas สามารถเสริมสร้างวิธีการจัดการสินค้าคงคลังของคุณและช่วยเพิ่มกำไรของคุณได้อย่างไร!


สรุป: Graas’ Product / SKU Analytics คืออะไร?


Graas’ Product / SKU Analytics คือเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ซึ่งช่วยให้เข้าใจประสิทธิภาพของสินค้าหรือ SKU ในรายการของคุณได้ง่ายขึ้น


มันถูกออกแบบมาเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริง ทำให้คุณสามารถตัดสินใจที่มีข้อมูลรองรับเกี่ยวกับกลยุทธ์สินค้า การตลาด และการจัดการสินค้าคงคลังได้ง่ายขึ้น


ด้วยแดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายแสดงเมตริกที่สำคัญ เช่น ยอดขาย การเข้าชม และอัตราการแปลงเครื่องมือนี้ช่วยให้คุณระบุสินค้าที่ทำผลงานดี ค้นหาสินค้าที่ต้องการการปรับปรุง และปรับกลยุทธ์ของคุณให้เหมาะสม


Graas’ Product / SKU Analytics ช่วยให้คุณวิเคราะห์ประสิทธิภาพของสินค้าได้อย่างไร?


Graas เป็นโซลูชันการวิเคราะห์ eCommerce ที่ครบวงจร ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาข้อมูลทุกรูปแบบ ตั้งแต่การตลาดไปจนถึงข้อมูลยอดขาย


ด้วย Graas’ Product / SKU Analytics คุณสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่ทรงพลังในการเพิ่มประสิทธิภาพของแต่ละสินค้าในแคตตาล็อกของคุณและตัดสินใจที่มีข้อมูลรองรับเพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จ


นี่คือวิธีที่คุณสามารถใช้ Product Deep Dive เพื่อเพิ่มศักยภาพของสินค้าทุกชิ้นที่คุณขาย


1. เปรียบเทียบเมตริกสินค้าผ่านช่องทางและร้านค้าต่างๆ

Graas’ Product / SKU Analytics ช่วยให้คุณสามารถติดตามและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสินค้าในทุกช่องทางการขายของคุณได้ในที่เดียว


ด้วยการผสานงานอย่างราบรื่นกับตลาดหลักและร้านค้า eCommerce ของคุณเอง Graas ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในการล็อกอินเข้า หลายแพลตฟอร์ม แทนที่คุณจะได้มุมมองที่ครอบคลุมของเมตริกสินค้าหลักในแต่ละช่องทางผ่านแดชบอร์ดเดียวที่รวมทุกอย่าง


การทำเช่นนี้ไม่เพียงทำให้การติดตามประสิทธิภาพของสินค้าทุกตัวในร้านค้าต่างๆ ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณระบุได้ว่า SKU ใดที่กำลังเติบโตหรือจำเป็นต้องปรับปรุง ซึ่งจะช่วยให้คุณได้เปรียบในการปรับกลยุทธ์สินค้าให้เหมาะสมกับทุกแพลตฟอร์ม


2. ระบุสินค้าหรือหมวดหมู่ที่ควรให้ความสำคัญ

Graas’ Product / SKU Analytics พร้อมฟีเจอร์ Quadrant View จะช่วยให้คุณสามารถจำแนกประสิทธิภาพของสินค้าแต่ละชิ้นออกเป็นสี่ประเภท ได้แก่ สินค้า Hero, สินค้าที่มีศักยภาพสูง, สินค้าที่มีผลการขายต่ำ, และสินค้าที่มองเห็นได้น้อย


ฟีเจอร์นี้ใช้เมตริก เช่น GMV (Gross Merchandise Value) และการเข้าชมเว็บไซต์เพื่อจัดระเบียบสินค้า ซึ่งจะช่วยชี้ให้เห็นว่าสินค้าใดที่ควรได้รับความสนใจจากคุณ


สินค้า Hero และสินค้าที่มีศักยภาพสูงควรได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะมันดึงดูดการเข้าชมและยอดขายอยู่แล้ว จากนั้น คุณสามารถเพิ่มความพยายามในการตลาดและโฆษณาให้กับสินค้าพวกนี้เพื่อเพิ่มการเติบโต หรือเน้นการปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลังเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น


หมายเหตุ: โดยการใช้ Quadrant View คุณสามารถระบุการผสมผสานสินค้าที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการและเจตนารมณ์ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มรายได้และความสามารถในการทำกำไร


Identify the perfect product mix with Graas' Product / SKU Analytics

นอกจากนี้ Graas’ Category Performance แดชบอร์ดยังช่วยให้คุณเห็นภาพรวมอย่างละเอียดเกี่ยวกับการที่แต่ละหมวดหมู่สินค้ามีส่วนช่วยในการขายรวมของคุณ


มันจะเน้นหมวดหมู่สินค้าที่ทำผลงานได้ดีที่สุด พร้อมทั้งชี้ให้เห็นพื้นที่ที่อาจต้องการการเพิ่มกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณค้นพบโอกาสในการเติบโตในทุกหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นหมวดหมู่ในตลาดทั่วไปหรือหมวดหมู่ที่สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับธุรกิจของคุณ


Product category analytics with Graas' Product / SKU Analytics

ตัวอย่างเช่น แบรนด์แฟชั่นอาจพบว่าหมวดหมู่ "อุปกรณ์เสริม" ทำผลงานได้ต่ำกว่าหมวดหมู่ "รองเท้า" เมื่อพิจารณาจากข้อมูลการเข้าชมและยอดขาย พวกเขาสามารถปรับโปรโมชั่นหรือเพิ่มสินค้าสู่หมวดหมู่อุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มการมองเห็นและการมีส่วนร่วม


3. ระบุสินค้าที่เคลื่อนช้าเพื่อเคลียร์สินค้าคงคลัง

ฟีเจอร์ Quadrant View ใน Graas’ Product Deep Dive ยังช่วยเผยสินค้าที่เคลื่อนช้า—สินค้าที่อาจดึงดูดความสนใจโดยไม่สามารถแปลงเป็นยอดขายได้ (สินค้าที่มีผลการขายต่ำ) หรือสินค้าที่มีการมองเห็นและยอดขายน้อย (สินค้าที่มองเห็นได้น้อย)


SKU เหล่านี้มักจะอยู่ในสินค้าคงคลังนานขึ้น และใช้ทรัพยากรพื้นที่เก็บและทรัพยากรทางการเงินที่มีค่า


โดยการระบุสินค้าเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ คุณสามารถตัดสินใจได้ว่า จะลงทุนในกลยุทธ์ที่เพิ่มการมองเห็น เช่น โฆษณาที่มีเป้าหมาย หรือจะค่อยๆ ขายออกไปด้วยการลดราคา


การใช้กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยเคลียร์สินค้าคงคลัง แต่ยังทำให้มั่นใจได้ว่า ทรัพยากรถูกนำไปใช้กับสินค้าที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า


Identify your product potential with eCommerce analytics tool

4. ปรับราคาสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายและความสามารถในการทำกำไร 

บางสินค้าแสดงผลการขายที่ดีกว่าสินค้าอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอ และราคามักมีบทบาทสำคัญ


Graas’ Product / SKU Analytics มีกราฟกระจาย (scatter plot) ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบคลัสเตอร์ที่มีการเข้าชมสูงสุด—สิ่งนี้จะช่วยให้คุณประเมินความสนใจในแต่ละระดับราคาต่างๆ ซึ่งทำให้การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของราคาง่ายขึ้น การวิเคราะห์นี้ช่วยให้คุณสามารถระบุช่วงราคาที่เหมาะสมซึ่งสร้างยอดขายได้มากที่สุดในขณะที่ยังคงเพิ่มความสามารถในการทำกำไร


Graas' Product / SKU Analytics - Scatter Plot

ด้วยข้อมูลเชิงลึกนี้ คุณสามารถปรับกลยุทธ์การตั้งราคาและทดสอบความยืดหยุ่นของราคาในแต่ละ SKU เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าของคุณมีราคาที่แข่งขันได้โดยไม่ลดทอนกำไร การปรับราคาตามการวิเคราะห์นี้ให้คุณได้เปรียบทางกลยุทธ์ในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาด 


5. วิเคราะห์แนวโน้มตามฤดูกาลเพื่อการจัดการสินค้าคงคลังที่ดีขึ้น

Graas’ Product Deep Dive ช่วยเสริมการตัดสินใจโดยการวิเคราะห์และติดตามแนวโน้มตามฤดูกาลของแต่ละสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ


ผ่านกราฟแนวโน้มที่เปรียบเทียบ GMV และคำสั่งซื้อในช่วงวันที่ที่เลือก คุณจะเห็นชัดเจนว่า ความต้องการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลและหมวดหมู่อย่างไร


ข้อมูลนี้ช่วยให้คุณวางแผนระดับสินค้าคงคลังได้ดียิ่งขึ้น โดยการรับประกันว่าสินค้าที่มีความต้องการสูงจะพร้อมจำหน่ายเมื่อจำเป็น และหลีกเลี่ยงการสต็อกสินค้าที่มากเกินไปในช่วงเวลาที่มีความต้องการต่ำ


การจัดการสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับแนวโน้มตามฤดูกาลทำให้คุณพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่มียอดขายสูงสุดและจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งปี


Identify seasonal patterns of product with eCommerce analytics

6. ปรับปรุงหน้าผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มอัตราการแปลง

Graas’ Product Deep Dive มีชุดข้อมูลหลากหลาย เช่น การเยี่ยมชม, อัตราการเพิ่มลงตะกร้า, และอัตราการแปลง เพื่อช่วยระบุว่า SKU ใดที่อาจต้องการการอัปเดตเนื้อหา


โดยการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เช่น เกรดผลิตภัณฑ์, คำสั่งซื้อที่วาง, การดูหน้าผลิตภัณฑ์, หน่วยที่เพิ่มลงตะกร้า, และค่าใช้จ่ายโฆษณา Graas ให้ภาพรวมที่สมบูรณ์เกี่ยวกับผลการดำเนินงานของแต่ละ SKU


ฟีเจอร์ Product Overview ช่วยให้คุณเจาะลึกลงไปอีก โดยการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานในระดับย่อยระหว่าง Parent, Child, หรือ Parent-Child variations ให้ภาพรวมของวงจรชีวิตและเส้นทางการซื้อของแต่ละผลิตภัณฑ์


Analyze your SKU level with Graas' Product / SKU analytics

ด้วยข้อมูลเชิงลึกนี้ คุณสามารถระบุจุดที่ต้องปรับปรุงและเสริมเนื้อหาของหน้าผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มอัตราการแปลง


ตัวอย่างเช่น หากหน้าผลิตภัณฑ์ที่มีการเยี่ยมชมสูงมีอัตราการเพิ่มลงตะกร้าต่ำ อาจถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุงคำอธิบายผลิตภัณฑ์, อัปเดตภาพ, หรือปรับปรุงเนื้อหาทั้งหมด


7. ติดตามอัตราการคืนสินค้าเพื่อปรับปรุงคุณภาพและความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์

การคืนสินค้าสามารถกัดกร่อนกำไรได้ ดังนั้นการติดตามอัตราการคืนสินค้าสำหรับแต่ละ SKU จึงเป็นสิ่งสำคัญ Graas’ Product Deep Dive ช่วยให้คุณติดตามความถี่ในการคืนสินค้า โดยการระบุผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการคืนสูงกว่าค่าเฉลี่ย


ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะกระตุ้นให้คุณตรวจสอบปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น คุณภาพผลิตภัณฑ์, คำอธิบายที่ทำให้เข้าใจผิด, หรือความไม่ถูกต้องของขนาด


โดยการวิเคราะห์และดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณสามารถลดอัตราการคืนสินค้า ช่วยประหยัดต้นทุนและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า


ตัวอย่างเช่น หากการคืนสินค้าสูงในผลิตภัณฑ์เฉพาะเนื่องจากปัญหาด้านขนาด การอัปเดตคำแนะนำขนาดหรือเพิ่มรีวิวจากลูกค้าอาจช่วยให้ลูกค้าเข้าใจความคาดหวังและลดการคืนสินค้า แต่หากเป็นเพราะคุณภาพ คุณควรพิจารณาหยุดขายสินค้านั้น


8. ปรับแต่งตำแหน่งของผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มการมองเห็นสูงสุด

ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แตกต่างกันไปในแต่ละช่องทางเนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าที่แตกต่างกัน ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่ขายดีบน Amazon อาจไม่ประสบผลสำเร็จบน Lazada


Graas ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และระบุว่า SKU ใดที่ประสบความสำเร็จ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกในการปรับแต่งตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ในแต่ละแพลตฟอร์ม


Dive deep into your product performance with Graas' Product / SKU Analytics

นอกจากนี้ โดยการวิเคราะห์อัตราการแปลงจากการค้นหากับการดูหมวดหมู่ คุณสามารถปรับแต่งการแสดงผลสินค้าบนเว็บไซต์ได้


ข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณทราบว่าผลิตภัณฑ์ใดที่ทำงานได้ดีในการค้นหาทั่วไป และผลิตภัณฑ์ใดที่อาจต้องการการโปรโมทหรือการจัดหมวดหมู่ที่ดีกว่าเพื่อเพิ่มการมองเห็น


โดยการเข้าใจว่า SKU ใดที่ทำได้ดีในช่องทางใด คุณสามารถจัดสรรทรัพยากรเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะได้รับการมองเห็นสูงสุดในที่ที่สำคัญ


9. วิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไรของ SKU เพื่อการจัดสรรทรัพยากรที่ดีขึ้น

Graas’ Product / SKU Analytics ช่วยให้คุณวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไรของ SKU เพื่อจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ


โดยการมุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรสูงและผลิตภัณฑ์ฮีโร่ คุณสามารถขับเคลื่อนความสามารถในการทำกำไร ขณะเดียวกันก็ประเมินบทบาทของสินค้าที่มีการมองเห็นต่ำในสินค้าของคุณ


การจัดสรรงบประมาณและความพยายามด้านการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรสูงช่วยเพิ่มทั้งรายได้และกำไร


แนวทางนี้ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนโดยมุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายและศักยภาพในการทำกำไรสูง สร้างพอร์ตโฟลิโอที่สมดุลซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของคุณ


10. ใช้การวิเคราะห์ ABC เพื่อจัดลำดับความสำคัญของสินค้าคงคลังและการตลาด

Graas’ Product SKU / Analytics ช่วยให้คุณสามารถทำการวิเคราะห์ ABC โดยการจำแนก SKU ตามการมีส่วนร่วมในการสร้างรายได้เพื่อปรับการจัดสรรทรัพยากร


ในกรอบการทำงานนี้ ผลิตภัณฑ์เกรด A แสดงถึงสินค้าทำเงินสูงของคุณ ซึ่งมักจะมีสัดส่วนประมาณ 80% ของรายได้ของคุณ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ควรได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาประสิทธิภาพที่ดี


ผลิตภัณฑ์เกรด B ซึ่งมีส่วนร่วมประมาณ 15% ของรายได้ มีศักยภาพในการเติบโต—การปรับกลยุทธ์การส่งเสริมหรือการตั้งราคาให้ดีขึ้นสามารถช่วยให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ประสบความสำเร็จ


ในขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์เกรด C ซึ่งมีสัดส่วนเหลือ 5% มักจะประสบปัญหาหรือมีผลการขายไม่ดี ตัวอย่างเช่น คุณอาจพิจารณาวางขายเหล่านี้หรือค่อยๆ หยุดขายเพื่อลดสินค้าคงคลั


Identify your product's contribution to your revenue with Graas' Product / SKU Analytics

เดิมพันกับผลิตภัณฑ์ที่ใช่ด้วย Graas Product / SKU Analytics!


Graas’ Product / SKU Analytics มอบเครื่องมือให้กับธุรกิจเพื่อปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ผ่านข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

 

โดยการวิเคราะห์ตัวชี้วัดประสิทธิภาพสำคัญ การระบุหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์ และการปรับกลยุทธ์การตลาด แบรนด์อีคอมเมิร์ซสามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและประสบความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง


Comments


bottom of page